
ตะกรุด เป็นเครื่องรางของขลังแบบไทย ๆ เป็นที่นิยม นอกเหนือจาก ไอ้ไข่ แห่งเมืองนครศรีธรรมราช ท่านท้าวเวสสุวรรณ จ้าวแห่งยักษ์ ผู้น่าเกรงขาม ยังมีอีกหนึ่งเครื่องรางที่ว่ากันว่า ช่างขลังนัก ซึ่งทางเว็บ lottosod 365 ไม่รอช้า รีบเสาะหาเรื่องราวดี ๆ เกี่ยวกับตะกรุดหลวงปู่เอี่ยมมาฝากผู้สนใจ
รูปแบบตะกรุดหลวงปู่เอี่ยม
ตะกรุดคืออะไร หลายคนใคร่สงสัย แอดมินมีคำตอบให้ดังนี้
ตะกรุด เครื่องรางจำพวกแผ่นโลหะหรือใบลานม้วนเป็นหลอดเล็กๆ นำมาลงอาคม จากนั้นจะพกติดตัวหรือสวมคอก็ได้ เชื่อว่ามีความขลังยิ่งนัก ซึ่งตะกรุดที่กำลังกล่าวถึงขณะนี้คือ ตะกรุดหลวงปู่เอี่ยม ถือว่าเป็นเครื่องรางเบญจภาคีที่บรรดานักสะสมเครื่องรางต่างให้การยอมรับว่าเป็นที่สุดของ “ตะกรุดโสฬสมหามงคล” ว่ากันว่า เป็นตะกรุดที่หายาก ใครครอบครองไว้แล้วจะไม่ยอมขาย ทั้งนี้เพราะ ปลุกเสกด้วยกสิณแห่งพระอริยะ นำปลายเหล็กมาจาร ลงบนแผ่นโลหะ โดยที่
ด้านในแผ่นจารึก จะเป็น อักขระสูตรโสฬสมหามงคล
ด้านนอกแผ่นจารึก เป็นสูตรอักขระพระไตรสรณคมน์ อีกทั้งยังล้อมรอบด้วยบารมี 30 ทัศน์ จากนั้นนำเชือกลายเกลียวหรือลายกระบองพอกผงทารักมาคล้องตะกรุดไว้
ในเรื่องของการปลุกเสก ว่ากันว่า หลวงปู่เปี่ยมจะใช้เวลาปลุกเสกเครื่องรางดังกล่าวเงียบ ๆ ภายในกุฏิที่อาศัยในทุกคืน โดยใช้คาถาที่เรียกว่า โองการพระมหาทะมึนให้ครบ 10000 จบ ซึ่งใช้เวลาในการปลุกเสกประมาณ 3 ปีเต็ม เลยเป็นเครื่องรางที่ใครคนไหนได้ครอบครอง เป็นต้องหวงแหนนัก
สำหรับพุทธคุณ มีการพูดเปรียบเปรยไว้ว่า เครื่องรางของขลังประเภทนี้ เปรียบประดุจสรรค์สร้างโดยเทวดา ดังนั้น ย่อมมีพลังพลานุภาพมากมายเหนือกว่าเครื่องรางอื่น สามารถปกป้องคุ้มครองผู้ครอบครอง เรียกได้ว่า พุทธคุณนั้นค่อนข้างครอบจักรวาลกันเลยทีเดียว
1.แบบเนื้อเงิน
ความยาวเครื่องรางชนิดนี้ประมาณ 4.5 นิ้ว ผลิตออกมาจำนวนน้อย โดยมีสาเหตุมาจาก พวกคหบดีในสมัยนั้น มักนำแผ่นเงินมาให้หลวงปู่มาลงอักขระพร้อมปลุกเสก ค่อนข้างหายาก เพราะมีจำนวนจำกัด
2.แบบเนื้อทองแดง
ความยาวของเครื่องราง มีตั้งแต่ 2.5 นิ้ว 3.5 นิ้ว และ 4 นิ้ว แต่ที่คนส่วนใหญ่นิยมจะอยู่ที่ขนาด 3.5 นิ้ว ลักษณะ เป็นการทุบ จากนั้นถึงนำมารีด เป็นเนื้อทองแดงแก่ฝาบาตร และแก่ทองเหลือง
3.แบบเนื้อตะกั่ว
ความยาว 4 นิ้ว เป็นตะกั่วทุบ สร้างเพื่อระดมทุนสร้างศาลาการเปรียญ
การสร้างตะกรุด ในแต่ละครั้ง มีการลงเวทย์อาคมลงในอักขระเลขยันต์ จากการรวบรวมสมาธิของพระอาจารย์ผู้ปลุกเสก จากนั้นถึงม้วนเป็นดอกตะกรุด และซ้ำด้วยพุทธาคมขลัง กระทั่งในท้ายที่สุดแล้ว ก็กลายมาเป็นเครื่องรองของขลังที่มีความขลังตลอดจนพุทธานุภาพมากมาย เลยเป็นอีกหนึ่งเครื่องรางที่ผู้เป็นเจ้าของ ไม่มีวันปล่อยให้ไปตกอยู่ในมือของผู้อื่น